joker gaming
joker gaming joker gaming
slotxo slotxo
pg slot pg slot

ครูบ้านนอก ภาพยนต์การศึกษาไทย

ครูบ้านนอก ภาพยนต์การศึกษาไทย
ครูบ้านนอก ภาพยนต์การศึกษาไทย

ครูบ้านนอก ภาพยนต์การศึกษาไทย

ครูบ้านนอก ภาพยนต์การศึกษาไทย ครูบ้านนอก บ้านหนองฮีใหญ่ เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายเมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2553 สร้างโดย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ผลิตภาพยนตร์โดย ครกไม้ไทยลาวม่วนซื่นโฮ กำกับโดย สุรสีห์ ผาธรรม นำแสดงโดย พิเชษฐ์ กองการ, ฟ้อนฟ้า ผาธรรม, หม่ำ จ๊กมก, อสงไขย ผาธรรม, คำปาณี วงทองคำ และ พันนา ฤทธิไกร 

ทำความรู้จัก

ภาพยนตร์นี้ ได้นำภาพยนตร์ ครูบ้านนอก ในปี พ.ศ. 2521 มาทำใหม่ ซึ่งมีโครงสร้างลักษณะใกล้เคียงกัน แต่แก่นเรื่องพลิกแพลงไปจากเดิม ภาพยนตร์ถ่ายทำที่เฮือนสวนดอนธรรม จังหวัดกาฬสินธุ์ เกือบทั้งเรื่อง  UFABET

และเป็นภาพยนตร์สะท้อนปัญหา สังคมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เรื่องราวเกี่ยวกับครูสาวที่เพิ่งจบการศึกษาจากวิทยาลัยครู และเดินทางไปสอนในถิ่นทุรกันดาร ขาดแคลนไฟฟ้าแหล่งน้ำและสาธารณสุข เป็นการแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตเก่า ๆ ของคนชนบทอีสาน และขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่

ภาพยนตร์ทำรายได้ 3.52 ล้านบาท ภาพยนตร์ได้กระแสตอบรับที่ดีมากโดยเฉพาะภาคอีสานที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดี ได้รับความชื่นชมจากนักวิจารณ์และได้นำไปแสดงในต่างประเทศ

ได้รับรางวัลภาพยนตร์สร้างสรรค์และรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากรัสเซีย ในปี 2552 สุรสีห์พาธรร มนำภาพยนตร์เรื่องครูบ้านนอก มาสร้างใหม่โดยสหมงคลฟิล์ม นำแสดงโดยพิเชษฐก้อง, ฟ้อนฟ้าธรรมและหม่อมจอก เผยแพร่เมื่อวันครู 14 มกราคม 2553 โดยใช้ชื่อหนังว่าครูบ้านนอกบ้านหนองฮีใหญ่

แรงบันดาลใจ

ครูบ้านนอก เป็นเรื่องที่กล่าวถึงชีวิตของครูท่านหนึ่งในบ้านนอกคนหนึ่งที่มีความเป็นครูอย่างเต็มเปี่ยม จิตวิญญาณความเป็นครูของเขาส่งผลให้เขามีพื้นฐานจิตใจ นิสัย และพฤติกรรมที่ดีเพี่อที่จะให้เป็นแบบอย่างแก่นักเรียน โดยผู้แต่งได้ใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวชนบทอีสา นมาสร้างสีสันและใช้เป็นเนื้อเรื่อง 

โดยการสอดแทรกขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม และจริยธรรมของผู้คนเป็นหลัก  และยังได้ยกเอาปัญหาต่างๆ ที่มีอยู่ในสังคมขึ้นมาเป็นประเด็นสำคัญ ตรงจุดเปลี่ยนของเรื่องที่ทำให้ตัวละครเอก 

ผู้อุทิศตนเพื่อส่วนรวมต้องรับเคราะห์จากความดีที่กระทำ  และบรรยายถึงความเป็นครู ซึ่งมีความลำบากยากเข็ญ และความสัมพันธ์อันดีระหว่างครูบ้านๆกับชาวบ้านในทุกๆ ด้านได้อย่างดีเยี่ยม pgslot

เรื่องย่อ ครูบ้านนอก

ครูบรรจุใหม่ที่เพิ่งจบการศึกษามาหมาดๆ  ชื่อว่า  ปิยะ  ผู้ซึ่งจากดินแดนอีสานบ้านเกิดมาไกลถึงกรุงเทพ  เพื่อมาเล่าเรียน  เข้าเรียนจบชั้นปก.ศ.สูง  และตั้งใจว่าจะกลับไปเป็นครูที่อีสานบ้านเกิดเพื่อไปพัฒนาชีวิตของเด็กๆที่รู้ว่ามีความลำบากยากเข็ญจากที่ได้ประสบในวัยเด็ก  ปิยะเลือกที่จะบรรจุที่จังหวัดอุบลราชธานีบ้านเกิด  ซึ่งเขาก็สอบได้สำเร็จหลังจากที่เรียนจบนั่นเอง  

ด้วยความที่จากเมืองอุบลไปตั้งแต่เด็ก  เขาจึงไม่มีคนที่พอรู้จัก  แต่เขาก็ได้รู้จักกับหญิงสาวสวยคนหนึ่งที่สอบบรรจุเป็นครูได้ในรุ่นเดียวกับเขาเช่นกัน  เมื่อทำความรู้จักกันก็ได้ทราบว่าเธอเป็นลูกสาวของปลัดอำเภอเมือง  

เธอมีชื่อว่า  ดวงดาว  เป็นผู้หญิงทันสมัย สดใสร่าเริง  และเป็นกันเองมาก  ปิยะรู้จักกับดวงดาวในตอนที่เลือกโรงเรียนที่จะไปสอน  เขาเลือกโรงเรียนที่อยู่ในชนบทห่างไกลเขตเมืองใหญ่  ด้วยเหตุผลง่ายๆที่ชื่อฟังแล้วแปลกดีว่า “ โรงเรียนบ้านหนองหมาว้อ”  ตั้งอยู่ในตำบลบ้านผักอีฮีน  ส่วนดวงดาวได้สอนในโรงเรียนที่ใกล้ๆ กับชายแดน

เดิมทีปิยะเป็นคนอำเภออำนาจเจริญ  ซึ่งในปัจจุบันก็คือจังหวัดอำนาจเจริญ แต่เขาไม่ได้กลับไปสอนที่นั้นเพราะความที่เป็นคนสบายๆ  ไม่ช่างเลือกและเขาก็เดินทางไปสอนที่โรงเรียนบ้านหนองหมาว้อ  

ในโรงเรียนนี้ มีครูประจำการอยู่หนึ่งคนซึ่งทำหน้าที่แทบจะทุกอย่าง  มีตำแหน่งเป็นครูใหญ่มีชื่อว่า  ครูใหญ่คำเม้า  แกเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี  มีความสนิทสนมกับชาวบ้านเป็นอย่างมาก  แต่เสียอยู่ว่าชอบไปมั่วสุมกับพวกเล่นการพนัน  และชอบกินเหล้าเมายาอยู่ตลอด แม้ในเวลามีการเรียนการสอน  โดยไม่สนใจเด็กนักเรียน  

เมื่อปิยะเข้ามาเป็นครูคนใหม่ก็เข้าทีของแก  ครูใหญ่จึงให้ปิยะเป็นคนรับภาระสอนและดูแลเด็กเกือบทั้งหมด  ช่วงแรกๆ  ปิยะอาศัยอยู่กับครูใหญ่แต่ต่อเขาก็ได้ย้ายมาอยู่ที่กระท่อมข้างโรงเรียนตามลำพัง  slotxo

ในทุกๆ วัน  ปิยะจะมาโรงเรียนแต่เช้าตรู่  จนเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ชอบมากันตั้งแต่เช้าเพื่อมาฟังนิทาน  และทำกิจกรรมต่างๆ  ร่วมกับปิยะอยู่เสมอ  ปิยะมีอัธยาศัยดีต่อชาวบ้านจึงเกิดความสนิทสนม  และเขาก็ชอบที่จะไปทำความรู้จักกับผู้ปกครอง ของเด็กนักเรียน 

จนได้รู้จักกับพะยอม  หญิงสาวชาวบ้านคนหนึ่งซึ่งเป็นคนที่มีหน้าตาดี  มีความขยันขันแข็งเนื่องจากแม่ของเธอซึ่งเป็นผู้ปกครองของนักเรียนที่ชื่อเซียง  ล้มป่วยออดๆแอดๆ  ปิยะจึงได้มาคอยช่วยเหลือครอบครัวนี้ในด้านต่างๆมากมาย  

อีกทั้งเขายังมีความเป็นกันเอง  ชาวบ้านมีอะไรก็คอยไปช่วยเหลือถึงแม้ไม่มีสิ่งตอบแทน  งานบุญ  งานมงคลต่างๆ ก็ไปไม่ได้ขาด  ชาวบ้านจึงรักใคร่  แต่ในสังคมก็ยังต้องมีคนที่ไม่ชอบ หรืออิจฉาซึ่งอาจมีเพียงส่วนน้อย  แต่ไม่มีใครแสดงท่าทีอะไรออกมา

หลังจากที่ดวงดาวย้ายเข้ามาประจำกับปิยะที่โรงเรียนแห่งนี้  ก็ได้ช่วยให้เขาเบาแรงลงไป  ดวงดาวเองก็เป็นหลานสาวแท้ๆ  ของครูใหญ่คำเม้า  เธอจึงเข้าพักอาศัยที่บ้านของครูใหญ่แทนที่ปิยะที่ย้ายออกมา  ด้วยความที่มีนิสัยรักความสบาย  เธอจึงพร่ำพูดอยู่เสมอว่าต้องการที่จะย้ายเข้าไปสอนในโรงเรียนที่อยู่ตามเมืองใหญ่ๆ  และค่อนข้างเจริญ  และคงจะอยู่ที่โรงเรียนนี้ไม่ได้นานแน่  

แต่ด้วยจิตวิญญาณความเป็นครูที่ดีและการทำตัวเป็นแบบอย่างกับนักเรียนของครูปิยะ  การแสดงความเสียสละ  ต่างๆเหล่านี้ทำให้ดวงดาวซาบซึ้งและมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งต่างๆ ให้กับนักเรียนมากขึ้น  จนไม่คิดที่จะอยากย้ายไปไหนไกลอีกเลย

ปิยะเป็นคนที่ชอบทำอะไรด้วยตนเองเพื่อเป็นตัวอย่างแก่ผู้อื่น  เขาขุดบ่อบาดาลขึ้นใช้เอง  อีกทั้งยังลงมือปลูกพืชผักสวนครัวไว้บริเวณบ้าน  โดยเด็กนักเรียนคอยช่วยเหลือเป็นลูกมือ  เขาสอนเด็กนักเรียนอย่างที่เรียกว่าสอนคน  ไม่ใช่สอนหนังสือ  คือไม่อ่านให้ฟังแล้งให้ท่องจำอย่างเดียว  แต่ยังสอนให้ได้คิดและลงมือกระทำในสิ่งที่ได้รู้มาให้เห็นจริง  เด็กๆ จึงพากันรักครูปิยะมาก

ต่อมาไม่นานก็มีครูหนุ่มมาดโก้คนหนึ่งเข้ามาประจำการอยู่อีกคนชื่อว่าพิศิษฐ์ ทำให้โรงเรียนบ้านหนองหมาว้อมีครูทั้งหมด  4  คน  แต่ความที่พิศิษฐ์มีนิสัยและพฤติกรรมที่คล้ายกับครูใหญ่คำเม้าจึงเข้ากันดีเรียกว่าไปไหนไปกัน   joker

ชาวบ้านจึงพากันพูดว่าโรงเรียนนี้มีครูจริงๆอยู่เพียงแค่ 2  คน  และพิศิษฐ์ยังทำพฤติกรรมที่เสื่อมเสียต่ออาชีพครู โดยเขาได้หลอกหญิงสาวชาวบ้าน ให้เสียตัวแก่เขา จนมีเรี่องมีราวเกิดขึ้น  แต่หลังจากเรื่องสงบ เขาก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปจากเดิม  

จึงถูกมือดีหลอกตีหัวด้วยยาแดงเพื่อสั่งสอน  และพิศิษฐ์ยังมีนิสัยอวดร่ำอวดรวย   ใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยโดยไม่ยั้งคิดจึงทำให้ยอดเงินเดือนติดลบไม่พอชำระหนี้  จนไปกระทบกับเงินเดือนของครูในโรงเรียนจึงถูกตำหนิ  จึงเป็นจุดที่ทำให้พิศิษฐ์เปลี่ยนแปลงตัวเอง  หันมาเอาใจใส่เด็กนักเรียนได้ในที่สุด

จุดเปลี่ยน

โรงเรียนบ้านหนองหมาว้อนั้น  เดิมทีครูใหญ่ ได้ขอให้ย้ายออกมาจากวัดแล้วสร้างอาคารเรียนชั่วคราวด้วยน้ำพักน้ำแรงของชาวบ้าน  เมื่อปิยะเข้ามาเขาจึงได้เป็นทุกข์เป็นร้อนคอยไปรบเร้าครูใหญ่เกี่ยวกับการดำเนินการสร้างเพิ่มเติม  

จนในที่สุดก็ได้มีการประมูลการสร้าง  และผู้ที่ได้รับเหมาก็คือเสี่ยมังกรผู้ที่มีอิทธิพล  ด้วยจุดประสงค์ที่เขาต้องการจะเปิดโรงเลื่อยไม้และทำธุรกิจผิดกฎหมายบางอย่างในพื้นที่นี้  จึงเลือกประมูลโรงเรียนเล็กๆ อย่างโรงเรียนบ้านหนองหมาว้อ  โดยให้ลุงจารย์เกิ้นผู้มีฐานะในหมู่บ้านรับเป็นนายช่างใหญ่  เพื่อจะนำไม้ที่ลอบตัดจากป่าออกมาแปรรูปสร้างโรงเรียนได้สะดวก

ปิยะถูกผู้ไม่ประสงค์ดีกลั่นแกล้งหลายต่อหลายครั้ง  ทั้งงัดบ้านเข้าไปค้นสิ่งของหรือขโมยแตงโมที่เขาลงมือปลูก  รวมไปถึงไก่ที่ปิยะให้นักเรียนเลี้ยงไว้หลายตัว  แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกถึงความวิตกกังวล  กลับใช้เหตุการณ์ที่เกิดเป็นการสอนในเรื่องโทษของการลักขโมยได้  

แต่แล้วเหตุการณ์ก็ต้องเปลี่ยนแปลง เมื่อพิศิษฐ์ต้องถูกสั่งย้าย  จากการที่เขากับปิยะแสดงความช่วยเหลือดวงดาวที่ถูกครูสวัสดิ์ซึ่งเป็นคนสนิทของหัวหน้าเขตการศึกษาลวนลาม ทำให้มีคำสั่งที่เหมือนเป็นการจงใจกลั่นแกล้งจากผู้มีอำนาจ  ย้ายพิศิษฐ์ไปยังโรงเรียนใกล้ชายแดน  ถึงแม้ไม่อยากจากไปแต่พิศิษฐ์ก็ได้เพียงตัดพ้อว่าเบื้องบนสั่งอะไรก็ต้องทำ

ในช่วงปิดเทอมใหญ่  ปิยะซึ่งไม่ได้ห่างโรงเรียนไปไหนก็ได้ร่วมกิจกรรมต่างๆ กับจารย์เคนผู้รู้ด้านภูมิปัญญาชาวบ้าน ปิยะกับจารย์เคนเข้าไปหาของป่าและก็ได้พบกับธุรกิจผิดกฎหมายร้ายแรงของเสี่ยมังกร  คือการตัดไม้ในเขตป่าสงวน  

ปิยะซึ่งพบเห็นก็ทำหน้าที่เป็นพลเมืองดีและครูผู้รักท้องถิ่น  โดยการถ่ายรูปส่งไปยังหนังสือพิมพ์รายวันฉบับใหญ่ลงตีพิมพ์  ทำให้เสี่ยมังกรร้อนตัว  แต่ก็ยังไม่รู้ว่าตัวการคือครูปิยะจึงไม่สามารถทำอะไรได้จึงเพียงแต่สั่งลูกน้องให้คอยสอดส่อง  

หนึ่งในนั้น มีหมอสมบัติคนรักของพะยอมที่ผิดแปลกไปและยังสงสัยว่าเขาเป็นตัวการ  จึงแอบเข้าไปค้นบ้านของปิยะและก็ได้พบหลักฐานสำคัญ  จึงออกอุบายต่างๆ ทั้งปลุกระดมชาวบ้านให้ขับไล่ครูปิยะ  แต่ชาวบ้านที่ยังรักเคารพ  นับถือก็คอยปกป้องมาโดยตลอด

ในที่สุดวาระสุดท้ายของครูปิยะคนดีของสังคมก็จบลง  เมื่อเสี่ยมังกรสั่งการให้มือปืนฆ่าปิดปากปิยะ  ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาได้หลบซ่อนตัวในสถานที่แห่งหนึ่ง  แต่ด้วยความคิดถึงโรงเรียนและเด็กนักเรียน  จึงตัดสินใจที่จะกลับมาสอนทั้งๆ ที่เรื่องราวยังไม่จบสิ้น  

แล้วปิยะก็ถูกยิงในขณะที่เขากำลังรีบปั่นจักรยานขึ้นมาถึงเนินหน้าโรงเรียน  พอดีกับจังหวะที่ครูดวงดาวและนักเรียนได้ยินเสียงจักรยานจึงวิ่งออกมารับ  ดวงดาวและนักเรียนเมื่อได้เห็นปิยะถูกยิงก็วิ่งเข้าไปโอบร่างอันไร้วิญญาณของปิยะไว้  ด้วยความเสียใจและยังข้องใจว่าทำไมครูดีๆ อย่างปิยะจึงต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้

ข้อคิด

หนังเรื่อง ครูบ้านนอก เป็นหนังที่ถือว่าถ่ายทอดถึงเรื่องราวของครูที่อยู่ตามถิ่นทุรกันดารออกมาได้เป็นอย่างดี ให้เห็นความเป็นอยู่ คู่มือการเรียนการสอน ที่ไม่ได้ทันสมัยครูต้องมา เตรียมสื่อการสอน เพื่ออยากที่จะให้นักเรียนได้มีความอยากที่จะเรียน อย่างมีความสุข สนุกกับการเรียน ไม่น่าเบื่อ 

ในหนังโรงเรียนเป็นเพียงเพิงธรรมดาที่กันได้แต่เพียงลม แต่กันฝนแทบไม่ได้ ในโลกของความจริงก็มีหลายโรงเรียนที่ยังเป็นเช่นนั้น อยู่และก็ยังมีครูที่เสียสละชีวิต ที่สุขสบาย อยู่สอนนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลอยู่เหมือนกัน  joker gaming

การเสียสละของครูนั้นไม่ใช่แค่เพียงแค่ตัวของครูยังต้องห่างไกลจากครอบครัวยิ่งครูตามโรงเรียนชายแดนแล้วละก็ความเสียสละนั้นยิ่งใหญ่เหลือเกินกับเงินเดือนที่ได้รับเพียงน้อยนิด

มุมมองโรงเรียนชนบท

โรงเรียนตามชายแดนหรือในเขาที่ห่างไกลที่โรงเรียนกับบ้านนั้นจะอยู่ห่างไกลกัน นักเรียนเลยต้องนอนกับครูที่โรงเรียนทำกับข้าว ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เพื่อเป็นอารหารให้กับทั้งนักเรียนและครู 

ซึ่งการเรียนการสอนก็ในหนังกับชีวิตจริงนั้น ก็ไม่ได้ต่างกันเลยแม้แต่น้อย อุปกรณ์การเรียนก็ไม่ได้ทันสมัยเหมือนกับโรงเรียนในตัวเมือง ความเป็นอยู่ของครูนั้นก็ไม่ได้สบาย แต่ด้วยจิตวิญญาณที่มีต่อลูกศิษย์ทำให้ครูต้องอยู่เพื่อศิษย์ที่รักอบรม สั่งสอนให้นักเรียนเหล่านั้นได้เป็นคนดี มีความรู้ พึ่งพาตัวเองได้ในวันข้างหน้า

การถ่ายทอดหนังเรื่อง ครูบ้านนอก มาสู่เรื่องราวในชีวิตจริงนั้นช่างไม่ได้ต่างกันเลยแทบจะเป็นเรื่องเดียวกัน ครูผู้ที่มีแต่ให้อบรมสั่งสอนศิษย์ เพื่อให้ศิษย์นั้นได้เป็นคนดี ครูที่ต้องเสียสละ ครูบางท่านนั้น  lotto

การเป็นอยู่แสนลำบากแต่ก็ไม่เคยบ่น บางโรงเรียนขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนครูเองก็ได้ใช้เงินตัวเองซื้ออุปกรณ์การเรียนให้กับลูกศิษย์เพียงเพื่อให้ศิษย์นั้นได้เล่าเรียน เรื่องราวในหนัง ก็ไม่ได้ต่างจากชีวิตจริง ครูไม่ใช่แค่สอนหนังสือ แต่ยังเป็นเสาหลักให้กับลูกศิษย์ได้พึ่งพา เป็นผู้เสียสละอย่างแท้จริง

บันทึกผู้กำกับ

ภาษิตอีสานตอนหนึ่งกล่าวไว้ว่า  ขุนหาญเฮาครองเมืองชางเฮืองฮุงขุนเหยียนครองบ้าน Be Hung Huong (ผู้นำที่กล้าหาญปกครองประเทศเร่าร้อนผู้นำขี้ขลาดปกครองประเทศที่ไม่มีความเจริญรุ่งเรือง)

ภาพยนตร์เรื่องครูบ้านนอกบ้านหนองฮีใหญ่ ได้นำบทนี้มาเป็นคติประจำใจของ ครูพิเชษฐ์ตัวเอกของเรื่องที่แสดงออกถึงความกล้าหาญต่อสู้กล้าเสียสละอุทิศตนเพื่อส่วนรวม ซึ่งคนแบบนี้หาได้ยากขึ้นในสังคมปัจจุบันที่เพิ่มพูนความเห็นแก่ตัวได้โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม

อยากเห็นคนแบบครูพิเชษฐ์เกิดขึ้นเยอะ ๆ ในสังคมไทยผมจึงสร้างตัวละครแบบนี้ในตัวละครเอกของ เรื่องเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ในปัจจุบันหัน ใส่ใจสังคมมากขึ้นโดยเฉพาะสังคมชนบทซึ่งยังอ่อนแอและเลี้ยงตัวเองได้ slot

เขาสร้างหนัง เรื่องบ้านนอก บ้านหนองฮีใหญ่ เพื่อบอกคนว่าสังคมชนบท ยังต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถ และมีอุดมคติกล้าหาญและมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมสร้างพัฒนา และแก้ไขปัญหาให้คนในชนบทสามารถพึ่งตนเองได้ โดยไม่ต้องละทิ้งบ้านและครอบครัวไปอยู่ในเมืองใหญ่เพื่อรับใช้สังคมทุนนิยมลัทธิบริโภคนิยมซึ่งจะทำลายสังคมชนบทในที่สุด

อัพเดทล่าสุด : 27 มิถุนายน 2021 (ข้อมูลล่าสุดปี 2021)